【รายงานจากสถานที่จริง】เหลือเวลาอีกไม่มาก! สถานการณ์แออัดจริงของงาน Expo Osaka-Kansai และช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ผมค้นพบ

บทนำ: สู่ใจกลางแห่งความคลั่งไคล้

สวัสดีครับ! ผมเคน บรรณาธิการบริหารของ Tokyo Insider Guide ครับ

เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วก่อนที่จะปิดฉากลง ตั๋วหมดทุกวัน และทีวีก็รายงานความคึกคักอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ “งาน Expo Osaka-Kansai” หัวใจของความวุ่นวายนี้เป็นอย่างไรกันแน่? ผมเองก็อดทนไม่ไหว จึงกระโดดเข้าร่วมงานเทศกาลประวัติศาสตร์นี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ร่างกายที่เหนื่อยล้า และแถวคิวที่ยาวเหยียดอย่างไม่น่าเชื่อ… บอกตรงๆ ว่าผมประมาทไปหน่อย แต่ก็จริงเช่นกันว่าที่นั่นเต็มไปด้วยความประทับใจและความประหลาดใจที่หาไม่ได้จากที่อื่น ผมหวังว่าแม้แต่ผู้อ่านที่หาตั๋วไม่ได้ ก็จะได้รับความตื่นเต้นและบรรยากาศนี้ไปบ้างไม่มากก็น้อย!

แม้จะจองเข้า 11 โมง แต่การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ 10 โมงเช้า

ผมจองตั๋วเข้างานที่ประตูทางออกฝั่งตะวันออกเวลา 11:00 น. อย่างไรก็ตาม ผมคาดว่าจะมีการจราจรติดขัด จึงออกจากโรงแรมก่อน 10:00 น. เมื่อผมไปถึงสถานที่จัดงานหลัง 10:00 น. เล็กน้อย แถวสำหรับผู้เข้าชมรอบ 11:00 น. ก็ยาวเหยียดอย่างเหลือเชื่อ! นั่นคือช่วงเวลาที่ผมตัดสินใจแล้วว่า “วันนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก…”

ถึงอย่างนั้น การมาถึงเร็วก็คุ้มค่า ผมสามารถผ่านประตูเข้างานได้ตรงเวลา 11:00 น. อย่างไรก็ตาม ความจริงก็ปรากฏขึ้นทันที การจองพาวิลเลียนสำหรับวันนั้นทั้งหมด “ปิดรับ” ทันทีที่ผมเข้าถึงด้วยสมาร์ทโฟน ดูเหมือนว่าพาวิลเลียนยอดนิยมจำเป็นต้องจองล่วงหน้าผ่านการจับฉลากเท่านั้น

ชนะด้วยกลยุทธ์! พาวิลเลียนลับที่เข้าได้ใน 15 นาที

ตอนที่ผมกำลังจนปัญญา ผมสังเกตเห็นว่าคิวของพาวิลเลียนฟิลิปปินส์ที่อยู่ใกล้ประตูทางออกฝั่งตะวันออกนั้นสั้นผิดปกติ ใช้เวลาเพียงประมาณ 15 นาทีก็สามารถเข้าชมได้อย่างราบรื่น! ภายในมีการจัดแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลายของฟิลิปปินส์ ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับความรู้ใหม่ๆ ว่า “แต่ละเกาะมีความแตกต่างกันมากขนาดนี้เชียวหรือ!”

ด้วยความกระตือรือร้นนั้น ผมเดินต่อไปยังพาวิลเลียนมาเลเซียที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีก็เข้าได้เช่นกัน! การจัดแสดงอาหารวัฒนธรรมนั้นยอดเยี่ยมมาก ทำให้ผมอยากเดินทางไปชิมอาหารทั่วมาเลเซียสักวันหนึ่งจากใจจริง

และพาวิลเลียนกัมพูชาที่แม้จะกะทัดรัดแต่ก็มีการจำลองโบราณสถานได้อย่างสวยงาม การที่สามารถสนุกได้มากขนาดนี้ตั้งแต่ช่วงต้นถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี!

คุ้มค่ากับการรอคอย 60 นาที! พาวิลเลียนสิงคโปร์ที่ผมชื่นชอบ

ผมไปที่พาวิลเลียนสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ผมชอบมาก เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ที่นี่เป็นที่นิยมมากสมชื่อ มีคิวยาว 60 นาที! แต่ในสถานการณ์ที่พาวิลเลียนหลายแห่งมีการจำกัดการเข้าชมบ่อยครั้ง ผมก็ตัดสินใจเข้าคิว โดยคิดว่า “อย่างน้อยก็ได้เข้าคิว”

และนิทรรศการนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอย! พื้นที่ที่ผสานธรรมชาติ ศิลปะ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เป็นสิงคโปร์อย่างแท้จริง หลังจากดื่มด่ำกับความประทับใจแล้ว ผมก็ได้ลิ้มลองลักซาและข้าวมันไก่ที่ร้านอาหารที่อยู่ติดกัน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด!

ช่วงเวลาที่แออัดที่สุดในตอนเย็น และความประหลาดใจยามค่ำคืน

ช่วงเวลาประมาณ 16:00 น. หลังจากรับประทานอาหารกลางวันล่าช้าไปเล็กน้อย เป็นช่วงเวลาที่แออัดที่สุด! พาวิลเลียนส่วนใหญ่จำกัดการเข้าชม ทำให้แทบจะขยับตัวไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงก่อน 18:00 น. ผู้คนเริ่มลดน้อยลงทีละน้อย และโอกาสก็มาถึง ผมจึงมุ่งหน้าไปยังพาวิลเลียนบาห์เรนที่ผมสนใจมานาน ถึงแม้จะเป็นประเทศที่ไม่คุ้นเคยนัก แต่ผมก็ได้รู้ว่าบาห์เรนเป็นประเทศเกาะที่สวยงามล้อมรอบด้วยทะเล และกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ผมอยากไปเยือนสักวันหนึ่ง

และสุดท้าย ผมก็ได้ไปเยี่ยมชมพาวิลเลียนเช็ก การออกแบบที่ไม่เหมือนใครที่ให้เดินขึ้นบันไดวนพร้อมชมงานศิลปะ ทำให้ผมหลงใหลในโลกทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่

หลังจากเดินจนเหนื่อย ผมก็แวะกินไอศกรีมตุรกีใกล้กับพาวิลเลียนตุรกี ทันใดนั้น ดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ก็พลุ่งพล่านขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน! เกิดการแสดงดอกไม้ไฟและโดรนที่ไม่คาดคิดขึ้น! นี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันของผมหายไปเป็นปลิดทิ้ง

เส้นทางกลับบ้านที่เหนื่อยล้า แต่หัวใจกลับเต็มเปี่ยม

สุดท้าย หลังจากซื้อของที่ระลึกที่ร้านค้าทางการ ผมก็ออกจากงานตอนเกือบ 3 ทุ่ม เส้นทางกลับสถานีจากที่นั่น… เป็นคิวยาวเหยียดอย่างไม่น่าเชื่อจนไม่อยากจะนึกถึง

ผมเหนื่อยล้ามากจริงๆ แต่หัวใจกลับรู้สึกอิ่มเอมอย่างประหลาด สิ่งที่ไม่เป็นไปตามแผน การพบเจอที่ไม่คาดคิด และความประหลาดใจทั้งหมดนี้ ทำให้ผมรู้สึกอย่างแรงกล้าว่างาน Expo คือ “ประสบการณ์” อย่างแท้จริง